
sqweez animal
สองหนุ่มนักเรียนอังกฤษที่เล่นดนตรีด้วยกันมาตั้งแต่ตอนอยู่ที่ต่างแดน ก่อนจะกลับมาสานฝันในการมีอัลบั้มของตัวเอง
วิน ศิริวงศ์ - ร้องนำ
แม้จะไม่เคยคิดเลยว่าจะต้องมาเป็นนักร้องอาชีพในทุกวันนี้ แต่วินก็เป็นชายหนุ่มที่บอกใครๆ ได้เต็มปากว่า รักการร้องเพลงเป็นชีวิตจิตใจวินเริ่มต้นร้องเพลงด้วยการชักชวนจากเพื่อน จากนั้นเขาก็เริ่มแต่งเพลงและเริ่มสนุกจนหลงรักการแต่งเพลงไปในที่สุด
สองหนุ่มนักเรียนอังกฤษที่เล่นดนตรีด้วยกันมาตั้งแต่ตอนอยู่ที่ต่างแดน ก่อนจะกลับมาสานฝันในการมีอัลบั้มของตัวเอง

แม้จะไม่เคยคิดเลยว่าจะต้องมาเป็นนักร้องอาชีพในทุกวันนี้ แต่วินก็เป็นชายหนุ่มที่บอกใครๆ ได้เต็มปากว่า รักการร้องเพลงเป็นชีวิตจิตใจวินเริ่มต้นร้องเพลงด้วยการชักชวนจากเพื่อน จากนั้นเขาก็เริ่มแต่งเพลงและเริ่มสนุกจนหลงรักการแต่งเพลงไปในที่สุด

หนุ่มท่าทางเงียบๆ ที่กำลังศึกษาด้านกราฟิกดีไซน์คนเติบโตมาในบ้านที่รักเสียงดนตรี เขาฝึกเล่นดนตรีมาตั้งแต่ 12 ขวบ และเคยเล่นมาแล้วทั้งกีตาร์ เบส กลอง สิงห์ชอบฟังเพลงเป็นชีวิตจิตใจ ใฝ่ฝันอยากทำเพลงของตัวเอง อยากมีอัลบั้มเหมือนศิลปินที่เป็นฮีโร่ของตัวเอง และการได้ทำเพลงออกมาให้คนได้ฟังวันนี้ก็ถือเป็นสิ่งที่ดีที่สุดในชีวิตของเขา
เรื่องของวงดนตรีวงนี้เริ่มต้นเมื่อหลายปีก่อน ตอนที่วินเริ่มเล่นดนตรีกับเพื่อนๆ ที่เมืองนอกมาตั้งแต่เข้าวัยรุ่น เขาเริ่มตั้งวงดนตรีของตัวเองตั้งแต่ตอนเรียนอยู่ที่อังกฤษ เวลามีงานของคนไทยในอังกฤษก็จะเป็นวงขาประจำที่ได้ไปแสดงโชว์ จนภายหลังเมื่อได้รู้จักกับสิงห์ซึ่งเป็นน้องของเพื่อนและรู้ว่าเป็นมือกีตาร์ฝีมือดี ก็รู้สึกชอบพอในฝีไม้ลายมือจนกลายมาเป็นเพื่อนร่วมวงกัน
วันเวลาผ่านไป ด้วยภาระในชีวิตจริงที่เพิ่มขึ้น สมาชิกในวงดนตรีก็เริ่มแยกย้าย จนเหลือเพียงวินและสิงห์ที่ยังเล่นดนตรีอยู่และมีความฝันจะเอาจริงด้านนี้ต่อไป แล้วพวกเขาก็กลายเป็นวงดูโอ “Sqweez Animal” โดยได้ชื่อวงมาจากการเอาคำสองคำที่โปรดปรานมารวมกัน
คำว่า Animal มาจากการที่วินและสิงห์เปรียบตัวเองเหมือน ‘ลิงกลางคืน’ ที่จะคึกคักเมื่อตะวันตกดิน คำว่า Animal ก็ให้อารมณ์สนุกสนานประมาณนั้น
ส่วนคำว่า Sqweez นั้นพวกเขาได้จากชื่อโปรแกรมคอมพิวเตอร์โปรแกรมหนึ่ง เป็นคำเท่ๆ ที่มีความหมายว่า ‘บีบ’ ซึ่งคำนี้ปกติจะสะกดว่า Squeeze แต่พวกเขาก็นำมาเขียนในแบบตัวเอง เหมือนที่ใครๆ บอกว่าวินชอบร้องเพลงด้วยเสียงบีบๆ ...แต่ก็เป็นวิธีการร้องที่เค้นอารมณ์และฟังดูดีในแบบของเขาเองอยู่ดี
ก้าวแรก : ในบ้านเกิด
เมื่อกลับมาใช้ชีวิตที่เมืองไทย เสียงร้องของวินก็กลายเป็นที่รู้จักกันในวงกว้างมากขึ้นเมื่อเขาร้องเพลง “ไม่มีความหมาย” ในอัลบั้ม Singing in the Playground ให้ค่าย Playground Record เมื่อ 4 ปีก่อน เพลงนี้ได้รับรางวัล Virgin Hit Award จากการติดอันดับอยู่ในชาร์ตนานถึง 28 อาทิตย์ติดกัน วินยังได้สร้างเครดิตที่หลากหลายให้กับตัวเองต่อๆ มาอีกด้วย ตั้งแต่การไปร้องประสานให้กับ โยคีเพลย์บอย ไปร้องให้กับอัลบั้มของ Jerry และ Sleeper 1 และและยังไปร้องเพลงในอัลบั้มป๊อปๆ อย่าง Behind The Songs ของ เอิ้น พิยะดา ,และ ยังไปร่วมร้องให้กับวง HIPHOPย่างวง ดูจาดา เพลงจูบ 2 และสุดท้ายเขายัง เขียนเพลงและร้อง ให้กับวง BK 1 เพลงหนีไม่พ้น จากอัลบั้ม T-HOP รวมถึงการได้รับเลือกให้เป็นหนุ่มโสดที่น่าสนใจจากนิตยสารผู้หญิงอันดับหนึ่งอย่างคลีโอมาแล้ว แต่เขากับสิงห์ยังคงเกาะกลุ่มเล่นดนตรีกันอย่างเหนียวแน่น ในระหว่างนั้นสิงห์ก็ยังเล่นดนตรีและทำเพลงของวงตลอดเวลา
ก้าวต่อๆ มาของวินและสิงห์ก็เริ่มชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ พวกเขาทำเพลง “อาจยังไม่สาย และ ฉันไม่เหงา” ในนามวง “Sqweez Animal” ออกวางขายในงาน Fat Festival #4 ตอนปลายปี 2547 ปรากฏว่าได้รับเสียงตอบรับเป็นอย่างดีทั้งเรื่องยอดขาย และอันดับในชาร์ตเพลงที่เข้าไปถึง Top 5 ของแฟตชาร์ตได้ทั้ง 2 เพลง
และหลังจากตระเวนแสดงดนตรีตามที่ต่างๆ ตั้งแต่งานเล็กไปถึงงานใหญ่ ตั้งแต่กรุงเทพฯ ไปถึงเชียงใหม่ แคมปัสทัวร์ในมหาวิทยาลัยอีกหลายต่อหลายแห่ง จนวันนี้ที่ฝีมือและความมั่นใจเต็มเปี่ยม ก็ถึงเวลาของอัลบั้มเพลงเต็มรูปแบบจากวง Sqweez Animal ในสังกัด Spicy Disc แล้ว


ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น